ปัจจุบัน การใช้เครื่องจักรแทนแรงงานคนกลายเป็นกระแสหลัก และวิธีการผลิตทางการเกษตรแบบดั้งเดิมไม่สามารถปรับให้เข้ากับกระแสการพัฒนาของสังคมยุคใหม่ได้อีกต่อไป ด้วยการพัฒนาทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดรนจึงมีประสิทธิภาพมากขึ้นเรื่อยๆ และสามารถปรับให้เข้ากับภูมิประเทศที่ซับซ้อนหลากหลายเพื่อดำเนินการหว่านและแพร่กระจายยา
ต่อไปเรามาสรุปกันว่าการเกษตรด้วยโดรนจะมอบประโยชน์อะไรให้กับเกษตรกรได้บ้าง
1. ปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต

โดรนที่นำมาใช้ในภาคเกษตรกรรมสามารถปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตได้อย่างมาก กระบวนการปฏิบัติงานด้วยมือ ย่อมต้องพบกับภูมิประเทศที่ซับซ้อน เช่น สวนผลไม้ส่วนใหญ่มีขนาดใหญ่ พื้นที่ลาดเอียง ทำให้การเดินด้วยมือไม่สะดวก การใช้โดรนแตกต่างกัน เพียงแค่ต้องกำหนดพื้นที่ปฏิบัติการ โดรนสามารถดำเนินการฉีดพ่นได้ แต่ยังหลีกเลี่ยงการสัมผัสโดยตรงระหว่างเจ้าหน้าที่ฉีดพ่นกับยาฆ่าแมลง ช่วยเพิ่มความปลอดภัย
การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตทำให้เกษตรกรมีเวลาไปทำงานอื่นมากขึ้นและมีรายได้เพิ่มมากขึ้น
2. ประหยัดต้นทุนการผลิต

นอกเหนือจากต้นทุนการซื้อเมล็ดพันธุ์ ปุ๋ย และยาฆ่าแมลงแล้ว ส่วนที่แพงที่สุดของการผลิตทางการเกษตรแบบดั้งเดิมก็คือต้นทุนแรงงาน ซึ่งตั้งแต่การปลูกต้นกล้าไปจนถึงการพ่นยาฆ่าแมลงนั้นต้องใช้กำลังคนและทรัพยากรวัสดุจำนวนมาก ในทางกลับกัน การหว่านเมล็ดด้วยโดรนนั้นไม่ต้องยุ่งยากมากนัก เมล็ดพันธุ์ที่ผ่านการบำบัดแล้วจะถูกหว่านโดยตรงเพื่อให้งอกและเติบโต และการพ่นยาฆ่าแมลงนั้นเร็วกว่ามาก โดยสามารถปลูกในพื้นที่หลายสิบเอเคอร์ได้ในเวลาไม่ถึงวัน ช่วยประหยัดต้นทุนได้มาก
3. การดำเนินการบริหารจัดการปรับปรุงคุณภาพการเกษตร

สามารถบังคับโดรนได้จากระยะไกล และสามารถตรวจสอบสุขภาพของพืชผลได้ตลอดเวลาผ่านการสื่อสารผ่านอินเทอร์เน็ตและการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่
โดรนใช้ในภาคเกษตรกรรมซึ่งอยู่เบื้องหลังข้อมูลและอุปกรณ์ในการทำงาน เป็นผลจากการพัฒนาอย่างต่อเนื่องของเทคโนโลยีโดรน
ในอนาคต โดรนจะช่วยให้ผู้คนหลุดพ้นจากงานฟาร์มที่สกปรกและเหนื่อยล้าที่สุด
เวลาโพสต์ : 28 ก.พ. 2566